ตรวจเอชไอวี ประโยชน์มากกว่าที่คิด
ปัจจุบัน การตรวจเอชไอวี ในประเทศสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าแต่เดิมมาก ด้วยการผลักดันของทุกภาคส่วนให้รองรับบริการขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยสามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวี ฟรี ได้ในโรงพยาบาลที่ให้บริการภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีละ 2 ครั้ง เพื่อมุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทั้งยังมีการกระจายบริการตรวจเอชไอวี ถึงระดับชุมชน
เอชไอวีคืออะไร ?
เอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus : HIV) เป็นเชื้อไวรัสที่ส่งผลโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หากร่างกายได้รับเชื้อชนิดนี้ภูมิคุ้มกันจะถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง จนร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และระยะสุดท้ายของการติดเชื้อ HIV คือ โรคเอดส์

ใครบ้างที่ควรตรวจเอชไอวี ?
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
- ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือ ผู้ที่เพศสัมพันธ์โดยไม่ขาดสติ
- ชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักและไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
- ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- ผู้ป่วยวัณโรค
- ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
- หญิงตั้งครรภ์ที่เข้ารับการฝากครรภ์
- ผู้ที่ทราบว่าคู่นอนติดเชื้อเอชไอวี
- บุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีจากอุบัติเหตุ
ตรวจเอชไอวีกี่วันรู้ผล?
คำถามยอดฮิตที่หลายคนยังคงมีความสงสัยก่อนเริ่มทำการตรวจ HIV ด้วยความที่ช่วงเวลาในการรอผลตรวจนั้น ส่งผลต่อความกังวลใจต่าง ๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่อาจติดเชื้อ แนวทางการรักษา ความกังวลใจต่อการแพร่เชื้อไปสู่คู่นอน ตลอดจนเรื่องสำคัญอย่างการรับมือของบุคคลในครอบครัว สิ่งเหล่านี้เองทำให้ช่วงเวลาในการทราบผล กลายเป็นสิ่งที่หลายคนเลือกวิธีการตรวจที่เร็วกว่าควบคู่ไปกับผลการตรวจ เอชไอวี ที่มีความแม่นยำด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าว่าการตรวจ HIV แต่ละวิธีต้องใช้ระยะเวลากี่วันจึงจะรู้ผลที่ชัดเจน โดยการตรวจเอชไอวี ในปัจจุบันจะแบ่งออกได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้
การตรวจเอชไอวี แบบ Anti-HIV
การตรวจ HIV ที่ทราบผลได้ในเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง ด้วยการตรวจหาภูมิต้านทาน หรือ Antibody ในร่างกายที่มีต่อเชื้อไวรัสเอชไอวีโดยการตรวจเลือด เป็นวิธีที่สามารถตรวจ HIV พบได้หลังจากติดเชื้อในร่างกายมาแล้วประมาณ 3-12 สัปดาห์ ดังนั้นหากผู้ตรวจทำการตรวจหลังการติดเชื้อได้ไม่นาน อาจได้รับผลตรวจเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) ได้ แพทย์จะแนะนำให้ทำการตรวจ HIV ซ้ำอีกครั้งในช่วงเวลาที่แพทย์พิจารณาแล้ว
การตรวจเอชไอวี แบบ NAT (Nucleic Acid Testing)
การตรวจเอชไอวี ที่ทราบผลได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ด้วยการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี โดยวิธีนี้สามารถตรวจพบเชื้อหลังจากติดเชื้อเอชไอวีได้ในช่วง 3-7 วัน ซึ่งในปัจจุบันวิธีนี้นำมาใช้ในการตรวจคัดกรองผู้บริจาคโลหิตเท่านั้น แต่ยังไม่ถูกนำมาใช้ในการตรวจ HIV ภายในสถานพยาบาล
การตรวจเอชไอวี แบบ Rapid Test
การตรวจเอชไอวี ที่ทราบผลได้ในเวลาเพียง 20 นาที นับว่าเป็นวิธีการตรวจที่เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ อย่างมาก อย่างไรก็ตามยังใช้เพื่อการตรวจคัดกรองเท่านั้น เนื่องจากการตรวจด้วยวิธีนี้เป็นเพียงการตรวจโดยการหยดเลือด หรือ ซีรั่ม ลงบนชุดตรวจคล้ายกับการใช้ชุดตรวจครรภ์ที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งในปัจจุบันมีวางจำหน่ายอย่างถูกต้องตามร้านขายยา รวมถึงคลินิกเฉพาะด้านทั่วประเทศ ดังนั้นจึงจะต้องทำการตรวจยืนยันโดยแพทย์อีกครั้ง ในกรณีที่ได้ผลบวก และในขณะเดียวกันหากได้ผลตรวจ HIV เป็นลบ ผู้ตรวจไม่ควรชะล่าใจ แนะนำให้ตรวจย้ำอีกครั้งหลังจากครั้งล่าสุดประมาณ 1 เดือน พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อร่วมด้วย
การตรวจ HIV แบบ Fourth Generation
การตรวจ HIV ที่ทราบผลได้ในเวลาเพียง 20 นาที ด้วยจุดเด่นที่สามารถตรวจหาแอนติบอดีและแอนติเจนของเชื้อไวรัสเอชไอวีได้พร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งนิยมใช้อย่างแพร่หลายในการตรวจ HIV เพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยตรวจได้หลังจากติดเชื้อตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป

ตรวจเอชไอวี ราคาเท่าไร?
สถานบริการ | รายการ/ราคา |
คลินิกนิรนาม | ตรวจแบบรู้ผลทันทีจะเริ่มต้นที่ 200-1,500 บาท |
ตรวจที่ LAB | ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 500-2,500 บาท ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจ |
โรงพยาบาลเอกชน | ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ประมาณ 600-3,000 บาท |
โรงพยาบาลรัฐ | โรงพยาบาลของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ และสามารถตรวจเอชไอวีได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง |
ขอบคุณข้อมูล : Lovefoundation